fbpx

รวมมาให้แล้วกับ 10 In Ear Monitor น่าใช้ที่สุด 2024!

Share:

สำหรับ In Ear Monitor นั้นเป็นหูฟังที่จะใช้กันในกลุ่มอาชีพนักดนตรี หรือเหล่า Sound Engineer เพราะมีส่วนช่วยในการทำให้งานแสดง โดยเฉพาะการแสดงสดออกมามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งวันนี้ใครที่กำลังมองหาหูฟังประเภทนี้ไปใช้ เพื่อทำให้งานแสดงออกมาน่าประทับใจ พร้อมทั้งยังได้เพิ่มและดึงศักยภาพของตัวเองออกมา เราขออาสามาแนะนำ In Ear Monitor ยี่ห้อเด็ด รุ่นดัง ให้คุณได้ลองเก็บไปเปรียบเทียบ เพื่อให้เจอกับตัวเลือกที่เหมาะกับคุณมากที่สุดในปี 2024!

Beats Studio Buds

Sudio รุ่น Sudio

JBL - Quantum 50

FiiO FH1s

Sony - WI-C100

Beat Byrd รุ่น Beat Byrd

BGVP Q2S

ZST X 2020

KZ AS16 In-Ear

Yuin PKE

ข้อดี

กันน้ำ ตัดเสียงรบกวนได้ดี

ควบคุมระบบสัมผัสได้

JBL QuantumSOUND Signature

ถอดสายได้

ระบบ DSEE™ ที่จะคืนค่าความถี่ที่สูญเสียไปในการ
บีบอัด

เน้นขับเสียงในช่วงเสียงกลางที่สมดุล

บอดี้หูฟังทำโดย
กระบวนการพิมพ์ 3D printing

หูฟังระดับ Hifi Hybrid 2Drivers

ใช้ไดร์เวอร์ BA Balanced Armature ถึง 8 ตัวต่อหนึ่งข้าง

ค่า Impedance ที่สูง

ไร้สาย

ย่านความถี่

-

45 Hz

20Hz – 20kHz

5Hz - 40kHz

20Hz - 20,000Hz

15 – 21,000 Hz

-

20Hz-40Khz

20 - 40,000 Hz

20 - 24,000Hz

ค่า Ohms

-

32

16

26

-

18

21

12

15

150±20

ราคาเริ่มต้น

5,000 บาท

1,350 บาท

1,112 บาท

2,290 บาท

990 บาท

990 บาท

2,290 บาท

439 บาท

3,590 บาท

12,990 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

ทำไมต้องใช้ In Ear Monitor

ทำไมต้องใช้ In Ear Monitor

เมื่อต้องขึ้นเวทีเพื่อแสดงสดนั้นจะมีอุปกรณ์อย่าง Stage Monitor อยู่ ซึ่งเป็นลำโพงที่ทำให้นักดนตรีนั้นได้ยินเสียงการเล่นของตัวเอง คุมน้ำหนักของการเล่น และระดับเสียงในการร้องได้ดีขึ้น เพราะท่ามกลางเสียงที่ดังของการแสดงสด ถ้าไม่มีเสียงเหล่านี้ก็อาจทำให้ภาพรวมของระดับเสียงที่แสดงไม่ลื่นหูอย่างแน่นอน 

แต่ในบางครั้งงานแสดงที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ แค่ Stage Monitor นั้นอาจเอาไม่อยู่ ดังนั้น Inear Monitor จึงเข้ามาเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้นักดนตรีแสดงต่อได้อย่างเต็มศักยภาพ และมั่นใจ โดยทำหน้าที่เพื่อให้นักดนตรีได้ยินเสียงและคุมเสียงได้ดีเหมือนกับการได้ยินจาก Stage Monitor นั่นเอง

แนะนำเทคนิคเลือก In Ear Monitor แบบมีสายกับไร้สายต่างกันอย่างไร

In Ear Monitor แบบมีสายกับไร้สายต่างกันอย่างไร

โดยสำหรับประเภทของ In Ear Monitor เองนั้นก็จะมีทั้งแบบมีสาย และไร้สายให้คุณได้เลือกตามความต้องการ ซึ่งสองแบบนี้มาพร้อมความแตกต่างกันอย่างไรเรามาดูกันเลย

  • แบบมีสาย
    In Ear Monitor แบบนี้อาจมาพร้อมอุปกรณ์ที่ต้องพกติดตัวนักดนตรีหลายชิ้น เพื่อการทำงาน แต่มาพร้อมราคาที่เอื้อมถึงง่ายกว่า ดังนั้นถ้าเป็นงานแสดงที่ไม่ได้มีพื้นที่กว้างมากนัก แนะนำว่าแบบนี้ก็สามารถให้คุณคุมเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว เพราะมาพร้อมการใช้งานที่ง่าย และยังไม่ถูกรบกวนง่าย ๆ เพราะได้รับแรงจากสายที่เชื่อมต่อโดยตรงนั่นเอง
  • แบบไร้สาย
    แน่นอนอยู่แล้วว่า In Ear Monitor แบบนี้มาพร้อมความสะดวกในการใช้งาน ทำให้เคลื่อนไหวในการแสดงได้อย่างอิสระมากขึ้น ใช้ได้กับพื้นที่แสดงที่กว้างขึ้น เผื่อการเดินเพื่อให้ความบันเทิงผู้ชม รวมถึงการเต้น แต่ต้องระวังในเรื่องของคลื่นสัญญาณที่อาจถูกรบกวนได้ เพราะไม่ได้เชื่อมต่อสายโดยตรง
แนะนำเทคนิคการเลือก In Ear Monitor

แนะนำเทคนิคการเลือก In Ear Monitor

เมื่อเข้าใจรูปแบบต่าง ๆ ของ In Ear Monitor กันไปแล้ว เราลองมาดูคำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการเลือก เพื่อให้เจอกับหูฟังที่เหมาะกับคุณมากที่สุด พร้อมช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพงานเสียงของคุณได้อย่างน่าประทับใจกันดีกว่า

  • เลือกตามประเภท
    หูฟังแบบนี้มาให้เลือกทั้งแบบ In Ear Monitor และแบบ Over Ear ซึ่งแบบ In Ear ได้รับความนิยมมากกว่า โดยเฉพาะกับนักร้อง นักดนตรี หรือแม้แต่คนทั่วไปก็ยังนิยมใช้ เพราะสามารถปรับบาลานซ์ของเสียง นำเสนอไฟล์เสียงแบบ Flat ได้ ซึ่งจะช่วยเน้นการกระจายเสียง พกพาง่าย แต่ต้องเน้นการปรับระดับเสียงที่ชำนาญ เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดความผิดพลาดได้
  • เลือกที่มาพร้อมย่านความถี่กว้าง
    คุณจะสามารถเลือกย่านความถี่ต่ำและสูงได้ตามต้องการ แต่ก็จะต้องเลือก In Ear Monitor ที่มาพร้อมย่านเสียงให้เลือกได้กว้าง เพื่อขับเสียงออกมาให้สมดุล คุณภาพเหมือนกับย่านเสียงตรงกลาง จึงควรเลือกแบบที่กว้างกว่าที่คนเราได้ยินที่ 20-20,000 Hz เพื่อเก็บรายละเอียดให้สมบูรณ์มากขึ้น ส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นย่านเสียง Hi-Res
  • เลือกจากค่าความต้านทานของเสียง
    In Ear Monitor นั้นจะต้องทำงานร่วมกับอุปกรณ์กำเนิดเสียงอื่น ๆ ทั้งแอมป์ ลำโพง เครื่องดนตรี คุณจึงจำเป็นต้องเลือกพร้อมทั้งตรวจสอบค่าความต้านทานไฟฟ้าของหูฟัง (Impedance) ให้ดี หรือจะเรียกง่าย ๆ กว่าค่า Ohm นั่นเอง ซึ่งระดับค่าความต้านแบบกลาง ๆ คือ 80-250 ohms ส่วนระดับมืออาชีะจะอยู่ที่ 250 ohms 

 

ของดีแห่งวงการเพลงกับ 10 In Ear Monitor ที่คนทำงาน Sound ห้ามพลาดในปี 2024!

เข้าใจทั้งความสำคัญ ความแตกต่าง พร้อมทั้งวิธีการเลือกเบื้องต้นแล้ว ถึงเวลามาเลือก In Ear Monitor ที่ได้รับความนิยม และน่าใช้งานมากที่สุดในปีนี้ไปพร้อมกันแล้ว รุ่นไหนโดนใจ อยู่ในงบประมาณที่วางเอาไว้ก็สามารถเลือกซื้อไปใช้กันได้เลย รับรองว่าเราคัดยี่ห้อและรุ่นที่ดีที่สุดมาให้คุณอย่างแน่นอน

1.Beats Studio Buds

Beats Studio Buds

ข้อดี

กันน้ำ ตัดเสียงรบกวนได้ดี

ไร้สาย

ย่านความถี่

ค่า Ohms

ราคาเริ่มต้น

5,000 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

หูฟังแบบ In Ear ไร้สาย เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ดีไซน์สวยงาม แบตเตอรี่ทนทาน ใช้งานได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เสถียร ค่าดีเลย์ต่ำ คุณภาพเสียงคมชัด ตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถปรับแต่งเสียงให้มีไดนามิคเพิ่มขึ้นได้ กันน้ำระดับ IPX4

2. Sudio รุ่น Sudio

Sudio รุ่น Sudio

ข้อดี

ควบคุมระบบสัมผัสได้

ไร้สาย

ย่านความถี่

45 Hz

ค่า Ohms

32

ราคาเริ่มต้น

1,350 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

In Ear Monitor ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี ป้องกันน้ำระดับ IPX4 มาพร้อมความกระชับ ทำให้เคลื่อนไหวแบบไร้สายได้อย่างมั่นใจเพิ่มมากขึ้น ความคุมแบบระบบสัมผัสได้ แบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานกว่า 9 ชั่วโมง ดีไซน์สวย มีสีสันให้เลือกหลากหลาย มองหาความเป็นตัวเองได้ง่าย ๆ จากการเลือกหูฟังยี่ห้อนี้

3. JBL - Quantum 50

JBL - Quantum 50

ข้อดี

JBL QuantumSOUND Signature

ไร้สาย

ย่านความถี่

20Hz – 20kHz

ค่า Ohms

16

ราคาเริ่มต้น

1,112 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

In Ear Monitor ที่เหมาะกับการเล่นเกมมากเป็นพิเศษ ให้คุณสามารถสนทนา หรือปิดไมค์ได้อย่างง่ายดายเมื่อต้องการ พร้อมให้เสียงสุดล้ำด้วยนวัตกรรมเฉพาะของยี่ห้อนี้อย่าง JBL QuantumSOUND Signature ดีไซน์เท่ ใช้งานง่าย สวมใส่สบาย 

4.FiiO FH1s

FiiO FH1s

ข้อดี

ถอดสายได้

ไร้สาย

ย่านความถี่

5Hz – 40kHz

ค่า Ohms

26

ราคาเริ่มต้น

2,290 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

In Ear Monitpr แบบ 2 ไดร์เวอร์ 1BA+1DD รองรับ Hi-Res ถอดสายได้ ขั้ว 2 พิน 0.78 ตัว ไดร์เวอร์ Balanced เลือกใช้ Knowles33518 คุมย่านกลางและสูง ส่วนไดร์เวอร์ Dymamic ขนาด 13.6 คุมย่านต่ำเป็นหูฟังที่ถูกปรับแต่งจูนเสียงมาอย่างดี ตัวบอดี้มีความสวยงามด้วยลวดลายทีเป็นเอกลักษณ์โดยใช้ Celluloid ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำปิ๊กกีต้าร์ ตัวหูฟังมาพร้อมสาย Custom made 120 แกนแบบ High Purity Monocrystalline Litz Wires ซึ่งในแต่ละสายจะแยกออกจากกัน เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนในระบบ นอกจากนี้ตัวหูฟัง ยังรองรับการใช้งานคู่กับ FiiO UTWS1 เพื่ออัพเกรดให้หูฟังสามารถรองรับ True Wireless ได้

5.Sony - WI-C100

Sony - WI-C100

ข้อดี

ระบบ DSEE™ ที่จะคืนค่าความถี่ที่สูญเสียไปในการ
บีบอัด

ไร้สาย

ย่านความถี่

20Hz – 20,000Hz

ค่า Ohms

ราคาเริ่มต้น

990 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

In Ear Monitor ไร้สาย ใส่สบาย ใช้งานง่าย ใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน 25 ชั่วโมง ชาร์จไฟได้รวดเร็ว เข้ากับเสียงที่มีคุณภาพสูง ปรับแต่งได้ กันน้ำได้ในระดับ IPX4 มีระบบ DSEE™ ที่จะคืนค่าความถี่ที่สูญเสียไปในการบีบอัด เพื่อให้ได้เสียงคุณภาพสูงที่ใกล้เคียงต้นฉบับ ปรับเสียงของคุณแบบละเอียดโดยใช้แอพ Sony | Headphones Connect

6.Beat Byrd รุ่น Beat Byrd

Beat Byrd รุ่น Beat Byrd

ข้อดี

เน้นขับเสียงในช่วงเสียงกลางที่สมดุล

ไร้สาย

ย่านความถี่

15 – 21,000 Hz

ค่า Ohms

18

ราคาเริ่มต้น

990 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

หูฟังแบบ In Ear ราคาสุดคุ้ม เน้นขับเสียงในช่วงเสียงกลางที่สมดุล และดึงเอารายละเอียดของเสียงเครื่องดนตรีออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ตามสไตล์การปรับจูนเสียงของแบรนด์ ใครที่มองหาหูฟังที่มีคุณภาพเสียงเยี่ยมเสมือน Headphone ขนาดเล็ก สะดวกในการใช้งาน ห้ามพลาด

7.BGVP Q2S

BGVP Q2S

ข้อดี

บอดี้หูฟังทำโดย
กระบวนการพิมพ์ 3D printing

ไร้สาย

ย่านความถี่

ค่า Ohms

21

ราคาเริ่มต้น

2,290 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

หูฟัง In Ear Monitor 2 ไดรเวอร์ 1BA Knowles + 1DD ไดรเวอร์ BA ใช้ Knowles RAF-32873 นำเข้าจากอเมริกา ไดรเวอร์ Dynamic ใช้ Biological Diaphragm ขนาด 6 mm. ควบคุมการทำงานไดรเวอร์ด้วย Electronic Crossover board ชิป Qualcomm QCC3040 รองรับ Bluetooth 5.2 และยังรองรับ aptX transmission ใช้เรซินนำเข้าจากเยอรมัน ในการทำบอดี้หูฟัง บอดี้หูฟังทำโดยกระบวนการพิมพ์ 3D printing น้ำหนักเบา สวมใส่ได้กระชับสบายหู ใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย รองรับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน CVC noise reduction รุ่นที่ 8 รองรับการใช้งานเป็น Host ได้ทั้งสองตัวหูฟังซ้ายและขวา ควบคุมใช้งานด้วยระบบ Touch 2.0 ได้ใบรับรอง Hi-Res Audio

8.ZST X 2020

ZST X 2020

ข้อดี

หูฟังระดับ Hifi Hybrid 2Drivers

ไร้สาย

ย่านความถี่

20Hz-40Khz

ค่า Ohms

12

ราคาเริ่มต้น

439 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

หูฟังแบบ In Ear Monitpr ที่ได้รับการพัฒนาให้เบสดีขึ้น เสียงแหลมเสียดหูน้อยลง เป็นหูฟังระดับ Hifi Hybrid 2Drivers ตอบสนองความถี่ 20Hz-40Khz รูปทรงแบบมืออาชีพ สวมใสง่าย แน่นกระชับ สายหูฟังถักเงินยาว 1.2 เมตร ให้รายละเอียดเสียง และมิติที่สมจริง สามารถเสียบต่อโทรศัพท์มือถือได้ทันที สามารถอัพเกรดถอดเปลี่ยนสายบลูทธได้

9.KZ AS16 In-Ear

KZ AS16 In-Ear

ข้อดี

ใช้ไดร์เวอร์ BA Balanced Armature ถึง 8 ตัวต่อหนึ่งข้าง

ไร้สาย

ย่านความถี่

20 – 40,000 Hz

ค่า Ohms

15

ราคาเริ่มต้น

3,590 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

In Ear Monitor ตัวแนะนำ บอกเลยว่าเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาหูฟังคุณภาพสูงไว้สำหรับการฟังเพลงโดยเฉพาะ ด้วยการใช้ไดร์เวอร์ BA Balanced Armature ถึง 8 ตัวต่อหนึ่งข้าง จึงทำให้เสียงที่ได้มีคุณภาพสูงตามขึ้นไป โดดเด่นอย่างมากในเรื่องของเสียงสูงและกลาง แยกแยะเสียงได้ดี เสียงเบสทำในระดับที่โอเค ไม่เยอะจนเกินไป นอกจากหูฟังยังได้รับการออกแบบตามสรีระหูผู้ใช้งาน ทำให้ใส่ได้กระชับ ลดเสียงรบกวน ตัวบอดี้ทำผ่านกระบวนการ 3D Printing แข็งแรงทนทาน ในเรื่องของสายสามารถถอดเปลี่ยนได้ตามต้องการ

10.Yuin PKE

Yuin PKE

ข้อดี

ค่า Impedance ที่สูง

ไร้สาย

ย่านความถี่

20 – 24,000Hz

ค่า Ohms

150±20

ราคาเริ่มต้น

12,990 บาท

ซื้อได้ที่/ติดต่อ

ถ้าคุณกำลังตามหาค่า Impedance ที่สูงนี่คือ In Ear Monitor ที่คุณไม่ควรพลาด แนะนำให้ใช้งานร่วมกับเครื่องเล่นเพลงพกพาที่มีกำลังขับสูง หรือใช้งานร่วมกับแอมป์หูฟัง ภายในใช้ไดร์เวอร์ชนิด Dynamic โดยชุดไดอะแฟรมจะใช้ของทาง Toray ซึ่งมีคุณภาพสูง โดยตัวไดร์เวอร์นี้จะมีค่า impedance สูงถึง 150 โอห์มเลยทีเดียว สายหูฟังใช้ตัวนำที่ทำจากทองแดงขนาดใหญ่ เพื่อการนำสัญญาณอย่างมีประสิทธิภาพ นำมาตีเกลียว และหุ้มฉนวนอย่างหนา เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน แต่จะมีความยืดหยุ่นสูง เพื่อความสบายเวลาใช้งาน ฟองน้ำหูฟังมีมาให้ 2 แบบ คือแบบเจาะรู ที่จะได้เสียงกลางที่เปิด และแหลมที่พุ่ง จัดจ้านมากกว่าเดิม และแบบไม่เจาะรูที่จะได้เสียงร้องที่อุ่นขึ้น ลดความจัดจ้านของเสียงแหลม และให้เบสที่ลึกกว่า

เมื่อต้องขึ้นเวทีเพื่อแสดงสดนั้นจะมีอุปกรณ์อย่าง Stage Monitor อยู่ ซึ่งเป็นลำโพงที่ทำให้นักดนตรีนั้นได้ยินเสียงการเล่นของตัวเอง คุมน้ำหนักของการเล่น และระดับเสียงในการร้องได้ดีขึ้น เพราะท่ามกลางเสียงที่ดังของการแสดงสด ถ้าไม่มีเสียงเหล่านี้ก็อาจทำให้ภาพรวมของระดับเสียงที่แสดงไม่ลื่นหูอย่างแน่นอน 

แต่ในบางครั้งงานแสดงที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ แค่ Stage Monitor นั้นอาจเอาไม่อยู่ ดังนั้น Inear Monitor จึงเข้ามาเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้นักดนตรีแสดงต่อได้อย่างเต็มศักยภาพ และมั่นใจ โดยทำหน้าที่เพื่อให้นักดนตรีได้ยินเสียงและคุมเสียงได้ดีเหมือนกับการได้ยินจาก Stage Monitor นั่นเอง

  • แบบมีสาย
    In Ear Monitor แบบนี้อาจมาพร้อมอุปกรณ์ที่ต้องพกติดตัวนักดนตรีหลายชิ้น เพื่อการทำงาน แต่มาพร้อมราคาที่เอื้อมถึงง่ายกว่า ดังนั้นถ้าเป็นงานแสดงที่ไม่ได้มีพื้นที่กว้างมากนัก แนะนำว่าแบบนี้ก็สามารถให้คุณคุมเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว เพราะมาพร้อมการใช้งานที่ง่าย และยังไม่ถูกรบกวนง่าย ๆ เพราะได้รับแรงจากสายที่เชื่อมต่อโดยตรงนั่นเอง
  • แบบไร้สาย
    แน่นอนอยู่แล้วว่า In Ear Monitor แบบนี้มาพร้อมความสะดวกในการใช้งาน ทำให้เคลื่อนไหวในการแสดงได้อย่างอิสระมากขึ้น ใช้ได้กับพื้นที่แสดงที่กว้างขึ้น เผื่อการเดินเพื่อให้ความบันเทิงผู้ชม รวมถึงการเต้น แต่ต้องระวังในเรื่องของคลื่นสัญญาณที่อาจถูกรบกวนได้ เพราะไม่ได้เชื่อมต่อสายโดยตรง
  • เลือกตามประเภท
    หูฟังแบบนี้มาให้เลือกทั้งแบบ In Ear Monitor และแบบ Over Ear ซึ่งแบบ In Ear ได้รับความนิยมมากกว่า โดยเฉพาะกับนักร้อง นักดนตรี หรือแม้แต่คนทั่วไปก็ยังนิยมใช้ เพราะสามารถปรับบาลานซ์ของเสียง นำเสนอไฟล์เสียงแบบ Flat ได้ ซึ่งจะช่วยเน้นการกระจายเสียง พกพาง่าย แต่ต้องเน้นการปรับระดับเสียงที่ชำนาญ เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดความผิดพลาดได้
  • เลือกที่มาพร้อมย่านความถี่กว้าง
    คุณจะสามารถเลือกย่านความถี่ต่ำและสูงได้ตามต้องการ แต่ก็จะต้องเลือก In Ear Monitor ที่มาพร้อมย่านเสียงให้เลือกได้กว้าง เพื่อขับเสียงออกมาให้สมดุล คุณภาพเหมือนกับย่านเสียงตรงกลาง จึงควรเลือกแบบที่กว้างกว่าที่คนเราได้ยินที่ 20-20,000 Hz เพื่อเก็บรายละเอียดให้สมบูรณ์มากขึ้น ส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นย่านเสียง Hi-Res
  • เลือกจากค่าความต้านทานของเสียง
    In Ear Monitor นั้นจะต้องทำงานร่วมกับอุปกรณ์กำเนิดเสียงอื่น ๆ ทั้งแอมป์ ลำโพง เครื่องดนตรี คุณจึงจำเป็นต้องเลือกพร้อมทั้งตรวจสอบค่าความต้านทานไฟฟ้าของหูฟัง (Impedance) ให้ดี หรือจะเรียกง่าย ๆ กว่าค่า Ohm นั่นเอง ซึ่งระดับค่าความต้านแบบกลาง ๆ คือ 80-250 ohms ส่วนระดับมืออาชีะจะอยู่ที่ 250 ohms 
Related Suggest
รวมมาให้แล้วกับ 7 คลินิก แก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ที่ไหนดี ปี 2024!

รวมมาให้แล้วกับ 7 คลินิก แก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ที่ไหนดี ปี 2024!

กล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรงนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังกระทบกับชีวิตประจำวันอีกด้วย ใครเป็นแต่ไม่รู้ว่าจะแก้ที่ไหนดี เรามีคำตอบ

Continue reading

แนะนำ 5 บัตรกดเงินสดเงินเดือน 12000 เอกสารน้อย อนุมัติง่าย ปี 2024

แนะนำ 5 บัตรกดเงินสดเงินเดือน 12,000 เอกสารน้อย อนุมัติง่าย ปี 2024

เงินเดือน 12,000 บาท ก็มีสิทธิ์สมัครบัตรกดเงินสดไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้! บทความนี้เราขอแนะนำ 5 บัตรกดเงินสดเงินเดือน 12000 สมัครง่าย เอกสารน้อย อนุมัติไว ปี 2024!

Continue reading

รวม 5 เครื่องไล่ยุงไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี สยบยุงหายเรียบ ปี 2024!

รวม 5 เครื่องไล่ยุงไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี สยบยุงหายเรียบ ปี 2024!

ยุงสัตว์ตัวเล็กกวนใจที่สร้างทั้งความรำคาญ และโรคร้าย มากำจัดด้วยเครื่องไล่ยุงไฟฟ้ากัน ยี่ห้อไหนดี ไล่ยุงได้จริงบ้าง มาดูกัน

Continue reading

Categories
Technology

อุปกรณ์ไอที, PC, โน๊ตบุ๊ค

Keyboard

คีย์บอร์ด

Smart Phone

โทรศัพท์มือถือ

Smart Home

บ้านอัจฉริยะ

Gadget

เก็ตเจ็ต

Wellness

สุขภาพ และความงาม

Clinic

คลีนิก

Hospital

โรงพยาบาล

Health

สุขภาพร่างกาย

Supplementary

อาหารเสริม

Medical Equipment

อาหาร และยา

Beauty

เครื่องสำอาง

Food

อาหาร

Convenience Food

อาหารสะดวกซื้อ

Fashion

เสื้อผ้า

Accessories

สร้อย, แหวน, กระเป๋า, อื่นๆ

Book

หนังสือ

Games

เกมส์

Home and Garden

บ้าน และสวน

Pet

สัตว์เลี้ยง

Insurance

ประกันภัย

Real Estate

บ้าน, คอนโด, ที่พักอาศัย

Kids

เด็ก

Vehicle

รถยนต์

Wristwatch

นาฬิกา

Furniture

เฟอร์นิเจอร์

DIY

ข้าวของเครื่องใช้,
สิ่งประดิษฐ์

Hotel

โรงแรมที่พัก

Travel

ท่องเที่ยว

Language Institute

สถาบันสอนภาษา

Dairy Product

ผลิตภัณฑ์นม

Houseware

เครื่องใช้ภายในบ้าน

Luandry

ซักรีด

Kitchenware

เครื่องใช้ในครัว

Personalcare

ผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเอง

Program

โปรแกรม