Share:
การดูแลสุขภาพปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้หลายคนก็หันมารักสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งการที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ แม้จะมีราคาสูง แต่เชื่อเลยว่า หลายคนก็สามารถซื้อได้อย่างแน่นอน หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เราจะนำเสนอให้ทุกท่านได้ทำความรู้จัก และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันมากที่สุดในชีวิตประจำวัน ก็คือ หม้อทอดไร้น้ำมัน เครื่องครัวสุดยอดฮิต ไม่ว่าใครก็จะต้องหาติดครัวไว้แล้ว เนื่องจากใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย ตอบสนองคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ และมีเวลาเร่งรีบในแต่ละวัน หม้อทอดไร้น้ำมันก็เป็นตัวช่วยที่ดี หากใครยังไม่รู้จัก สามารถตามมาดูกันได้เลยว่าหม้อทอดไร้น้ำมันคืออะไร มีกี่ประเภท และจะต้องเลือกซื้ออย่างไร ตามมาหาคำตอบพร้อมการแนะนำ 10 หม้อทอดไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี
 |  |  |  |  |  |  |  |  |  | |
ประเภท | แบบฮาโลเจน | แบบตะกร้า | แบบตะกร้า | แบบตะกร้า | แบบใบพาย | แบบตะกร้า | แบบตะกร้า | แบบตะกร้า | แบบตะกร้า | แบบตะกร้า |
ขนาด | 36.5 x 32.2 x 38.2 ซม. | 34 x 28 x 33 ซม. | 32 x 33 x 33 ซม. | XXL | 29.8 x 28.0 x 25.0 ซม. | 31.5 x 29.0 x 34.5 ซม. | 31.8 x 27.2 x 32.5 ซม. | 290 x 211 x 388 มม. | 297.5 x 378.3 x 350 มม. | 36.4 x 29.9 x 32.1 ซม. |
ความจุ | 10 L | 1.2 kg. | 3.5 L | 5.5 L | 2.5 L | 2.8 L | 4.5 L | 2.5 L | 5 L | 5.5 L |
ฟังก์ชันพิเศษ | หม้อทอดไร้น้ำมัน LocknLock ตัวเครื่องทำงานโดยใช้การหมุนเวียนลมร้อน จนอาหารสุก ปราศจากควัน และน้ำมัน | ความจุขนาดใหญ่ กระจายความร้อนได้ทั่วถึง ทำเมนูได้อย่างหลากหลาย | ฟังก์ชั่นการใช้งานอัตโนมัติ 6 รูปแบบ ลมไซโคลนให้ความร้อนอย่างสม่ำเสมอ ทำเมนูได้อย่างหลากหลาย | ฟังก์ชันอุ่นอาหาร เทคโนโลยี Twin TurboStar ตั้งอุณหภูมิได้ 80°C – 200°C หน้าจอดิจิทัล | ฟังก์ชันอุ่นอาหาร ปรับอุณหภูมิได้สูงกว่า 80 - 200 องศา ช่วยรีดน้ำมันในอาหารได้มากถึง 80% | ตั้งเวลา และควบคุมอุณหภูมิได้ถึง 200 องศา | ใช้ลมร้อน ประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น ทอด อบ คั่ว ย่าง | ฟังก์ชันอุ่นอาหาร ตั้งเวลาปรุงได้สูงสุด 60 นาที ตั้งอุณหภูมิได้ 80°C – 200°C ระบบตัดไฟอัตโนมัติ | หม้อทอดไร้น้ำมัน ดีไซน์สวย ทอดได้กรอบด้วยลมร้อนอุณหภูมิสูงที่หมุนเวียนภายใน ไม่ต้องกังวลเรื่องไขมัน และคราบ | มาพร้อมกับเทคโนโลยี หลอดความร้อนบนล่าง และ Twin Turbo 9 ใบพัดที่ช่วยให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้น |
กำลังไฟฟ้า | 1,700 วัตต์ | 1,500 วัตต์ | 1,000 วัตต์ | 2,200 วัตต์ | 1,100 วัตต์ | 1,300 วัตต์ | 1,500 วัตต์ | 1,300 วัตต์ | 1,750 วัตต์ | 1,700 วัตต์ |
ประกัน | 1 ปี | 1 ปี | 2 ปี | 2 ปี | 1 ปี | 1 ปี | 2 ปี | 1 ปี | 2 ปี | 1 ปี |
ราคาเริ่มต้น | 4,990 บาท | 3,290 บาท | 13,990 บาท | 8,690 บาท | 2,399 บาท | 1,100 บาท | x บาท | 1,990 บาท | x บาท | x บาท |
หม้อทอดไร้น้ำมัน คือหม้อไฟฟ้าที่มีการใช้นวัตหกรรมการทอด ซึ่งจะมีการดึงน้ำมันออกจากอาหาร ด้วยนวัตกรรมกระบวนการการเป่าลมร้อนเข้าไปรอบๆ อาหาร แทนการใช้น้ำมัน เพื่อที่จะทำให้อาหารสุกได้รวดเร็ว มีความกรอบยิ่งขึ้น เมื่อได้รับประทานก็รู้สึกเหมือนได้ฟีลการทอดแบบ deep fried กันเลยทีเดียว จึงทำให้รสชาติของอาหาร และหน้าตาของอาหาร ดูดี น่ารับประทาน โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน และหม้อทอดไร้น้ำมันก็เป็นตัวช่วยลดปริมาณน้ำมันที่อยู่ในอาหารได้อีกด้วย แถมยังมีประโยชน์อีกมากมาย สามารถรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เมนูย่าง เมนูอบ เป็นต้น
หม้อทอดไร้น้ำมันประกอบไปด้วยกัน 3 ประเภท จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีอะไรกันบ้าง ตามมาทำความรู้จักกันได้เลย
หม้อทอดไร้น้ำมันแบบใบพาย จะมีการออกแบบมาโดยมีใบพายอยู่ตรงกลาง อาหารจะสุกได้ง่ายผ่านการทำงานด้วยใบพาย ซึ่งจะเป็นตัวที่ช่วยในการเดินเครื่องขับลมร้อน กระจายผ่านทั่วอาหาร จึงทำให้อาหารดูน่ารับประทาน และมีความสวยงาม ทำได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น อาหารทอด ซุป และอาหารอื่นๆอีกมากมาย
หม้อทอดไร้น้ำมันแบบตะกร้า หรือที่เรียกกันว่าหม้อทอดไร้น้ำมันลิ้นชัก ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งจะมีตะกร้าที่เป็นตัวส่งอาหารเข้าสู่หม้อทอด ลมร้อนจะมีการเผาผ่านทางตะกร้าเพื่อเข้าสู่อาหารอย่างทั่วถึง โดยน้ำมันที่อยู่ในอาหารก็จะไหลลงล่างตะกร้า ถูกแยกออกเพื่อที่จะคัดกรอง จึงทำให้อาหารออกมาแห้ง น่ารับประทาน
หม้อทอดไร้น้ำมันแบบฮาโลเจน จะเป็นการใช้หลอดไฟฮาโลเจน เป็นตัวทำงานแทนคอยล์ร้อน และมีตะแกรงในการจัดวางอาหาร ดึงน้ำมันออกจากอาหารไปยังข้างล่าง เป็นหม้อทอดไฟฟ้าที่มีหลอดไฟที่ช่วยทำให้เห็นอาหารได้ชัดเจนผ่านทางตู้กระจก
ข้อดี
ข้อเสีย
หม้อทอดไร้น้ำมัน มีหลากหลายรุ่นให้ท่านได้เลือกใช้งาน ซึ่งจะมีฟังก์ชันต่างๆ มากมาย จึงอาจจะทำให้มีความลังเล ดังนั้นเข้ามาดูวิธีเลือกซื้อกันดีกว่า
การเลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมัน จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เพื่อที่จะบริโภคอาหารได้อย่างมั่นใจ สามารถสังเกตได้จากตรามาตรฐานต่างๆ
เลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมัน ดูลักษณะการใช้งาน ว่าต้องการซื้อมาใช้งานลักษณะไหน เนื่องจากแต่ละยี่ห้อจะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
การเลือกหม้อทอดไร้น้ำมันที่ดีที่สุด จะต้องเป็นหม้อทอดที่สามารถรีดน้ำมันออกมาจากอาหาร ได้อย่างน้อย 50 %
เลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันจากฟังก์ชันการใช้งาน จะต้องมีหลากหลายฟังชั่น ไม่ว่าจะเป็นการทอด อบ ปิ้ง หรือย่าง ซึ่งหากยี่ห้อไหนมีเมนูมาด้วย ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี
ไอเทมสุดยอดฮิต เครื่องครัวที่ควรมีติดบ้านสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ หรือคนที่ชอบทานอาหารทอด แต่ก็อยากดูแลสุขภาพด้วย ก็คงจะหนีไม่พ้นไปจาก หม้อทอดไร้น้ำมันอย่างแน่นอน เป็นเครื่องครัวที่สามารถใช้งานได้ง่าย ประหยัดเวลาได้มากที่สุด ซึ่งวันนี้เราก็ได้มีการแนะนำ ให้กับทุกท่านได้ทำความรู้จักหม้อทอดไร้น้ำมันแต่ละยี่ห้อ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ ซึ่งจะมียี่ห้อไหนบ้าง มาดูกันเลย
LocknLock EJF691 หม้อทอดไร้น้ำมัน ที่ดีที่สุด ออกแบบขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของการใช้งาน ซึ่งลักษณะจะเป็นหม้อทอดไร้น้ำมันที่มีขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ซึ่งรุ่นที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ก็คือ หม้อทอดไฟฟ้าไร้น้ำมัน แบบอบลมร้อนอเนกประสงค์ รุ่น EJF691
Pros
– มีขนาดใหญ่ สามารถทำอาหารได้เยอะ
Cons
– ไม่สะดวกต่อการพกพา
หม้อทอดไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี รุ่นยอดฮิต Tefal EY201866 ซึ่งจะมาพร้อมกับความจุขนาดใหญ่ 1.2 กิโลกรัมกันเลยทีเดียว เครื่องทอดเพื่อสุขภาพ ทำอาหารได้สูงสุดสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีการ 6 คน โดยจะมีเทคโนโลยีฮอทแอร์ ที่เป็นตัวช่วยในการกระจายความร้อนให้กับอาหารสุกได้ทั่วถึง ทำได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ปิ้ง อบ ย่าง และการทอด ตะแกรงจะเคลือบไปด้วยสารกันติด ถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย มีระบบตัดไฟ และกำลังไฟ 1500 วัตต์
Pros
– ตะแกรงเคลือบสารกันติด / เทคโนโลยีฮอทแอร์ กระจายความร้อน / ระบบตัดไฟอัตโนมัติ
Cons
– สีมีให้เลือกน้อย
Gaabor แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมอันดับ 1 ผลิตส่งตรงมาจากประเทศเยอรมัน รับรองว่าเป็นสินค้าที่ได้รับมาตรฐาน โดยเฉพาะสินค้าขายดี หม้อทอดไร้น้ำมัน Gaabor รุ่น GA-M35A มาพร้อมกับความโดดเด่นมากมาย ที่มีสีดำเข้มสวยทันสมัย ขนาดความจุ 3.5 ลิตร และมีฟังก์ชันอัตโนมัติด้วยกันถึง 6 รูปแบบ ซึ่งมีการไหลเวียนของลมร้อน 360 องศากันเลยทีเดียว นวัตกรรมสุดโดดเด่น Cyclone Air ให้ความร้อนแก่อาหารสุกทั่วถึง
Pros
– การไหลเวียนของลมร้อน 360° ความร้อนสม่ำเสมอ / ฟังก์ชั่นการใช้งานอัตโนมัติ 6 รูปแบบ / ใช้งานง่าย ดีไซน์สวยงาม
Cons
– ยังไม่พบข้อเสีย
Philips ผู้นำนวัตกรรมหม้อทอดไร้น้ำมัน รุ่น HD9650/91 เรียกได้ว่าเป็นหม้อทอดไร้น้ำมันที่ขายดีที่สุด มีความทรงพลัง ผลิตส่งตรงมาจากประเทศฟิลิปปินส์ มาพร้อมกับความร้อนที่มากถึง 2,000 วัตต์ และมีเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย Twin TurboStar สามารถช่วยลดน้ำมัน และรีดไขมันออกจากอาหารได้ 100% ตอบโจทย์ที่สุด
Pros
– ขนาดหม้อใหญ่ ใส่อาหารได้เยอะ / เสียงเบา ไม่รบกวน / ใส่อาหารได้เยอะ ใส่ไก่ได้ทั้งตัว / ถอดออกมาล้างได้ง่าย / ฟังก์ชันอุ่นอาหาร
Cons
– เครื่องใหญ่ เคลื่อนย้ายลำบาก
หม้อทอดไร้น้ำมันยี่ห้อไหนดี Xiaomi Liren Air Fryer หม้อทอดไร้น้ำมัน ที่มีเทคโนโลยีการหมุนเวียนอากาศด้วยความเร็วสูง สามารถใช้อากาศเป็นตัวแทนที่น้ำมันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้อาหารไม่มีน้ำมันติดออกมาเลย จึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ มีความจุถึง 5 ลิตร ทำอาหารได้หลากหลาย กระจายความร้อนได้ทั่วทุกทิศทางในอาหารทุกชนิด ดีไซน์สวยงามและมีความทันสมัย กำลังไฟ 1100 วัตต์
Pros
– ความจุขนาดใหญ่ 5 ลิตร / ทำงานรวดเร็วด้วยกำลังไฟ 1100 วัตต์
Cons
– ไม่มีโหมด Rapid Air
หม้อทอดไร้น้ำมัน OTTO CO-725 จะมีความจุอยู่ที่ 2.8 ลิตร และมาพร้อมกับกำลังไป 1,300 วัตต์ ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ ไม่ต้องกังวลเรื่องไขมัน ไม่มีควัน ทำอาหารได้อย่างปลอดภัย ตั้งแต่เมนูทอด ไปจนกระทั่งถึงอบขนมกันเลยทีเดียว ปรับอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 200 องศาเซลเซียส หม้อทอดไร้น้ำมันรุ่นนี้ผลิตมาจากพลาสติกเคลือบมัน ทนความร้อนได้สูง และมีการเคลือบสารป้องกันการติดหม้อทำความสะอาดได้ง่าย และมีลิ้นชักอาหารอีกด้วย
Pros
– ทำอาหารได้หลายชนิด / ตั้งเวลาได้ / มีลิ้นชักทอดและตะกร้าอาหาร
Cons
– การทำความสะอาดยุ่งยากเล็กน้อย
Smart home MV-1301 ตอบโจทย์ทุกเมนูการทำอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ มาพร้อมกับขนาด 4.5 ลิตร และเคลือบไปด้วย Caflon มีความปลอดภัย 100% ทำอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ทอด อบ คั่ว ย่าง ตั้งเวลาสำหรับทำอาหารได้สูงสุด 30 นาที และมีสามารถตัดไฟได้ ตัวตะกร้าถอดล้างง่าย
Pros
– มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ / ตะกร้าใส่อาหารมีสารเคลือบ on-stick
Cons
– เมื่อใช้ระยะยาวระบบความร้อน จะเสื่อมสภาพ
หม้อทอดไร้น้ำมันยี่ห้อไหนดี ที่มาพร้อมกับ Air Boost มาพร้อมกับเทคโนโลยี ต้อง HAIER HAF-K25B2 สามารถช่วยไหลเวียนอากาศ และอุณหภูมิ ส่งผลทำให้อาหารสุกได้อย่างทั่วถึง และสุขรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำงานด้วยลูกบิด พร้อมกับตั้งเวลาทำอาหารได้ 60 นาที ลักษณะตะแกรงแบบ Quick Clean ถอดล้างง่าย มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ และป้องกันความร้อนที่สูงเกินไป ปรับอุณหภูมิได้ 200 องศาเซลเซียส
Pros
– ทำความสะอาดง่าย ถอดล้างได้สะดวก / มีระบบตัดไฟและป้องกันไฟสูงเกิน
Cons
– ไม่มีระบบ Rapid Air / ครอบครัวใหญ่อาจจะไม่เหมาะ เพราะขนาดเล็ก
หม้อทอดไร้น้ำมันรุ่นแรก หม้อทอดไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี Electrolux E6AF1-520K ขายดีที่สุด มีความจุ 5 ลิตร มาพร้อมกับระบบสัมผัส และลูกบิด สามารถตั้งเวลาในการทอดได้สูงสุด 60 นาที และปรับอุณหภูมิได้ 80-200 องศาเซลเซียส ซึ่งมีโปรแกรมอัตโนมัติ 8 โปรแกรม มีตะกร้าทอดเคลือบไปด้วยสารกันติด ทำความสะอาดได้ง่าย
Pros
– ตะกร้าทอดเคลือบสารกันติด / มีปุ่มล็อคก่อนเคลื่อนย้าย / ตะกร้าล้างง่าย
Cons
– เป็นระบบสัมผัส หากใช้งานไม่ระมัดระวัง จะเสียได้ง่าย
ทอดไร้น้ำมัน ที่ดีที่สุด สามารถช่วยรีดน้ำมัน และดีกว่าการทอดแบบดั้งเดิมได้มากถึง 85% ต้องหม้อทอดไร้น้ำมัน Levoit Cosori Air Fryer 5.5L CO158 ใช้งานง่าย มีระบบความปลอดภัย ตะกร้าทอดเคลือบด้วยสารกันติด ล้างทำความสะอาดได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน เพียงนำผ้าชุบน้ำแบบหมาดๆ ก็นำมาเช็ดทำความสะอาด
Pros
– มีโหมดสูตรอาหารแบบด่วน 8 สูตร / มีระบบป้องกันการปิดเครื่องอัตโนมัติ / ตะกร้าทอดไปทำความสะอาดได้ / ตัวเครื่องปลอดสาร BPA
Cons
– มีความจุเยอะ เคลื่อนย้ายลำบาก
หม้อทอดไร้น้ำมัน เป็นหม้อไฟฟ้าที่มีการใช้นวัตกรรมการทอด ซึ่งจะมีการดึงน้ำมันออกจากอาหาร ด้วยนวัตกรรมกระบวนการการเป่าลมร้อนเข้าไปรอบ ๆ อาหาร แทนการใช้น้ำมัน เพื่อที่จะทำให้อาหารสุกได้รวดเร็ว มีความกรอบยิ่งขึ้น เมื่อได้รับประทานก็รู้สึกเหมือนได้ฟีลการทอดแบบ deep fried กันเลยทีเดียว จึงทำให้รสชาติของอาหาร และหน้าตาของอาหาร ดูดี น่ารับประทาน โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน
หม้อทอดไร้น้ำมันประกอบไปด้วยกัน 3 แบบ จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีอะไรกันบ้าง ตามมาทำความรู้จักกันได้เลย
ทางเราได้รวบรวมมา ให้ท่านได้ตัดสินใจ ดูว่ามีความเหมาะสม กับการใช้งาน หรือไม่
ข้อดีของหม้ทอดไร้น้ำมัน
ข้อเสียของหม้อทอดไร้น้ำมัน
การรักษาด้วย Pico Laser ส่วนใหญ่ไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดเพราะการใช้เลเซอร์เป็นระยะเวลาสั้น อาจมีความรู้สึกเหมือนได้รับการกระตุ้นบนผิวหน้าหรือความร้อนเล็กน้อยได้ ผลข้างเคียงที่เป็นไปได้รวมถึงความแดงหรือบวมบนผิวหน้าเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่จะหายไปเองในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน
จำนวนครั้งและระยะเวลาการรักษาด้วย Pico Laser ขึ้นอยู่กับปัญหาหรือสภาวะที่คุณต้องการรักษา แพทย์ผู้ทำการรักษาจะประเมินผิวหน้าของคุณและแนะนำจำนวนครั้งและระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับคุณ ปกติแล้ว การรักษาด้วย Pico Laser ต้องทำซ้ำในระยะเวลาที่กำหนดเช่น 2-4 สัปดาห์ต่อครั้งเพื่อให้ผลการรักษาที่เหมาะสม
โปรดทราบว่าข้อมูลด้านบนเป็นข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการทำ Pico Laser และอาจแตกต่างไปตามแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านความงามเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและคำแนะนำที่ปรับแต่งให้ตรงกับสภาวะของผิวหน้าของคุณ
กล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรงนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังกระทบกับชีวิตประจำวันอีกด้วย ใครเป็นแต่ไม่รู้ว่าจะแก้ที่ไหนดี เรามีคำตอบ
เงินเดือน 12,000 บาท ก็มีสิทธิ์สมัครบัตรกดเงินสดไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้! บทความนี้เราขอแนะนำ 5 บัตรกดเงินสดเงินเดือน 12000 สมัครง่าย เอกสารน้อย อนุมัติไว ปี 2024!
ยุงสัตว์ตัวเล็กกวนใจที่สร้างทั้งความรำคาญ และโรคร้าย มากำจัดด้วยเครื่องไล่ยุงไฟฟ้ากัน ยี่ห้อไหนดี ไล่ยุงได้จริงบ้าง มาดูกัน
อุปกรณ์ไอที, PC, โน๊ตบุ๊ค
คีย์บอร์ด
โทรศัพท์มือถือ
บ้านอัจฉริยะ
เก็ตเจ็ต
สุขภาพ และความงาม
คลีนิก
โรงพยาบาล
สุขภาพร่างกาย
อาหารเสริม
อาหาร และยา
เครื่องสำอาง
อาหาร
อาหารสะดวกซื้อ
เสื้อผ้า
สร้อย, แหวน, กระเป๋า, อื่นๆ
หนังสือ
เกมส์
ผลิตภัณฑ์นม
เครื่องใช้ภายในบ้าน
ซักรีด
เครื่องใช้ในครัว
ผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเอง
โปรแกรม
