มาดูกันแอร์ 12000 btu ยี่ห้อไหนดี กับ 10 ยี่ห้อดัง ปี 2023!
แอร์ขนาดกำลังดีอย่างแอร์ 12000 btu ตอนนี้มียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง มาหาแอร์ที่ใช่ไปใช้กัน
23
Nov
Tascam US-1X2HR
รวม 10 Audio Interface รุ่นไหนดี คุณภาพสูง ทุกสตูดิโอต้องมี ปี 2023!
Son Pipat
Share:
ถ้าคุณกำลังมองหา Audio Interface ที่ทันสมัย มีคุณภาพสูง ราคาไม่แพง และทนทาน ในปี 2023 คุณอยู่ถูกที่แล้ว! อย่างที่เรารู้กันดีว่าซาวน์การ์ดเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับห้องสตูดิโออัด ห้องอัด ห้องบันทึกเสียง ที่ใช้ในการเเปลงเสียงจากอนาล็อก ให้เป็นไฟล์เสียงดิจิตอล เพื่อให้ได้เสียงที่รอการปรับแต่งในขั้นตอนต่อไป ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเพลงมืออาชีพ, ดีเจ, คนทำเพลง, หรือแม้แต่ผู้ที่มีความสนใจในเสียง การมีอุปกรณ์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการเสียงที่คุณสร้างขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่กับตลาดที่มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนไม่รู้กจะเลือก Audio Interface รุ่นไหนดี ในบทความนี้ Our Suggest เราได้รวบรวม 10 ซาวน์การ์ด คุณภาพสูง ปี 2023! จะมียี่ห้อไหน รุ่นไหน น่าสนใจกันบ้าง ติดตามกันได้เลย
 |  |  |  |  |  |  |  |  | ||
จุดเด่น | สามารถสร้างความละเอียดของเสียงที่บันทึกขึ้นมาด้วยความถี่ 24bit/192kHz | อินเทอร์เฟสมี M-Remote ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทั้งหมดนั้นง่ายและรวดเร็ว | มีขาเข้าแบบคอมโบ XLR/ TRS มากับปรีแอมป์ไมค์สองตัวที่มีคุณภาพสูงสุด | ถูกออกแบบมาให้ทันสมัยและเหมาะสมกับความต้องการทางด้านเสียง | ออกแบบมาเพื่อคอยตอบสนองความต้องการของนักดนตรีที่เดินทางบ่อย ใช้งานได้ทุกที่ | อินเทอร์เฟสที่สร้างด้วยผู้ที่มีประสบการณ์มากว่า 25 ปีในการสร้างสรรค์สตูดิโอ | สามารถรองรับการบันทึกเสียงสองช่องทางในเวลาเดียวกัน | สามารถดาวน์โหลดเอฟเฟกต์จากเว็บไซต์หลักได้มากถึง 150 รูปแบบ | มีสาย USB แบบ C พร้อมสายแปลงในกล่อง ทำให้คุณสามารถสร้างงานในรูปแบบต่าง ๆ | ช่วยให้คุณสามารถความละเอียดของเสียงได้ โดยพรีแอมป์ไมโครโฟน Onyx คู่ |
ตอบสนองต่อความถี่ | 24 Bit / 192 kHz | 24 Bit / 192 kHz | 20Hz-20kHz | ไม่พบข้อมูล | 24-bit / 192 kHz | 20 Hz - 20 kHz | 24-bit / 192 kHz | 24-Bit / 192 kHz | 24-bit / 192 kHz | 24-Bit / 192 kHz |
การเชื่อมต่อ | USB Type-C | USB | USB Cable | USB Type-C และ USB Type-A | USB | ไม่พบข้อมูล | USB | USB | USB Type-C | USB |
สี | ดำ | แดง | ดำ | ขาว | ดำ | ดำ | ดำ | ดำ | ขาว | ดำ |
ราคาเริ่มต้น | 3,490 บาท | 5,790 บาท | 4,850 บาท | 4,690 บาท | 4,700 บาท | 3,990 บาท | 4,490 บาท | 4,695 บาท | 6,490 บาท | 5,990 บาท |
ซื้อได้ที่/ติดต่อ |
Audio Interface คืออะไร
Audio Interface หรือ ซาวน์การ์ด เป็นเครื่องมือที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างเสียง (เช่น ไมโครโฟน, กีตาร์, เครื่องเปียโน) กับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึก แก้ไขเสียง (เช่น ซอฟต์แวร์บันทึกเสียง) ทำหน้าที่แปลงสัญญาณเสียงจากแบบแอนะล็อกเป็นแบบดิจิทัล และเพื่อที่คอมพิวเตอร์จะสามารถจัดการกับสัญญาณเสียงนั้นได้
ซึ่งซาวน์การ์ดจะมีการรับส่งสัญญาณเสียงผ่านหลาย Channels สามารถรับส่งสัญญาณเสียงจากแหล่งเสียงหลาย ๆ อุปกรณ์ พร้อม ๆ กันได้ และมีสามารถปรับแต่งระดับของสัญญาณเสียงหรือ Gain ที่สามารถปรับแต่งแยกได้ในแต่ละช่อง
ทั้งนี้อินเทอร์เฟซเสียง ก็มีหลากหลายรุ่น หลายรูปแบบที่มีความสามารถและฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน มีทั้งรุ่นที่มีขนาดเล็กที่พกพาได้ง่าย และรุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับการรับส่งสัญญาณเสียงจากหลาย ๆ อุปกรณ์พร้อมกันได้
คุณสมบัติของ Audio Interface
Audio Interface เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ที่ทุกสตูดิโอต้องมี สำหรับงานทางด้านการบันทึกเสียง การทำเพลง หรือการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเสียงและเพลง คุณสมบัติสำคัญของอินเทอร์เฟซเสียง ได้แก่
- การแปลงสัญญาณเสียง (AD/DA Conversion): การแปลงสัญญาณเสียงแอนะล็อกเป็นดิจิทัล (AD: Analog to Digital) และการแปลงสัญญาณเสียงดิจิทัลกลับเป็นแอนะล็อก (DA: Digital to Analog) เพื่อให้สามารถรับข้อมูลเสียงได้ตามต้องการ
- พอร์ทเชื่อมต่อ (Input/Output Ports): ให้ความสามารถในการรับส่งสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งไมโครโฟน, กีตาร์, ลำโพง, หูฟัง, และอื่นๆ ส่วนใหญ่จะมีพอร์ทเชื่อมต่อแบบ XLR, TRS, และ RCA ซึ่งแต่ละอุปกรณ์จะมีจำนวนพอร์ตช่องเสียบที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาดและการใช้งานของอุปกรณ์เป็นหลัก
- รองรับการทำงานแบบ Multichannel: สามารถรับส่งสัญญาณเสียงแบบ Multichannel ทำให้สามารถบันทึกเสียงจากหลายๆแห่งพร้อม ๆ กันได้
- ปรับระดับความดังเสียง (Gain Control): ให้ความสามารถในการปรับระดับของสัญญาณเสียง ทำให้เราสามารถควบคุมความดัง ความเบาของสัญญาณเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดสัญญาณรบกวน (Phantom Power): ส่งความต้องการไฟฟ้า 48V ไปยังไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ ซึ่งสำคัญสำหรับการบันทึกเสียงที่มีคุณภาพ
- สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์: สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ท USB, Firewire, Thunderbolt, หรือ PCIe เพื่อรับส่งข้อมูลดิจิทัล เพื่อทำการปรับแต่งเสียงได้ตามความต้องการสามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการบันทึกหรือแก้ไขเสียง จากโปรแกรม DAW ยี่ห้อต่าง ๆ
วิธีเลือก Audio Interface ต้องดูอะไรบ้าง
การเลือก Audio Interface ที่เหมาะสมสำหรับคุณ จำเป็นต้องพิจารณาความต้องการและวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานบันทึกเสียง, สร้างเพลง, หรืองานที่เกี่ยวข้องกับเสียงและเพลง จะมีอะไรที่ต้องพิจารณาบ้างไปดูกันเลย
การเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
โดยทั่วไปแล้ว Audio Interface ต้องสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ โดยต้องเชื่อมต่อผ่านสาย USB, Firewire, Thunderbolt, หรือ PCIe การเลือกว่าจะใช้วิธีการเชื่อมต่อไหนขึ้นอยู่กับพอร์ทที่มีในคอมพิวเตอร์ของตัวเองและความเร็วในการรับข้อมูลที่คุณต้องการ
จำนวนและประเภทของ Input/Output
ต่อมาให้พิจารณาถึงจำนวนและประเภทของพอร์ทเชื่อมต่อ Input/Output ที่ใช้จริง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ ถ้าคุณต้องการบันทึกเสียงจากหลาย ๆ อุปกรณ์พร้อมๆกัน คุณจำเป็นต้องเลือกอินเทอร์เฟสที่มีพอร์ท Input จำนวนมาก แต่สำหรับมือใหม่แล้วอาจไม่มีความจำเป็น เพราะส่วนใหญ่แล้วมือใหม่จะใช้ช่องเสียบมากที่สุด แค่ 2 ช่อง นั้นคือช่องสำหรับไมค์โครโฟน และช่องสำหรับกีต้าร์เท่านั้น ซึ่งก็อาจไม่มีความจำเป็นต้องซื้อขนาดใหญ่ที่มีช่องเสียบหลายพอร์ตก็ได้
คุณภาพของเสียง
คุณสมบัติก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ เนื่องจากการบันทึกเสียงทุกครั้งเราต่างต้องการเสียงที่มีคุณภาพสูง ซึ่งหาก Sample Rate และ Bit Depth ที่สูงกว่าจะทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ออกมาคุณภาพดีกว่า
ความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์
Audio Interface ที่คุณเลือกควรเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์หรือโปรแกรม DAW ที่คุณใช้งาน สำหรับการบันทึกหรือแก้ไขเสียง เพื่อให้สามารถใช้งานปรับแต่งได้อย่างอิสระ
แนะนำ 10 Audio Interface รุ่นไหนดี คุณภาพสูง ทนทาน ราคาไม่แพง ปี 2023!
อย่างที่กล่าวไปการเลือก Audio Interface ที่เหมาะสมสำหรับคุณ เพื่อใช้ในงานบันทึกเสียง การผลิตเพลง หรืองานที่เกี่ยวข้องกับเสียงต่าง ๆ จำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ที่คุณใช้งาน และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของราคาก็เป็นสิ่งที่จะต้องพิจารณาด้วย ทำให้หลายคนไม่รู้จะเลือก Audio Interface รุ่นไหนดี ในหัวข้อนี้เราจะมาแนะนำ 10 ซาวน์การ์ด ที่มีคุณภาพสูง ทนทาน และราคาไม่แพง ที่คุณควรลองพิจารณาในปี 2023 โดยเราได้รวบรวมข้อมูลจากทั่วโลก และเลือกเฉพาะรุ่นที่ได้รับความนิยมและรีวิวที่ดีในช่วงเวลานี้ ไปดูกันเลย
1.Tascam US-1X2HR
Tascam US-1X2HR เป็นอินเทอร์เฟสที่ตอบโจทย์สำหรับการพกพาด้วยขนาดที่คล่องตัว ให้คุณสามารถสร้างเสียงเพลงได้ทุกที่ที่คุณต้องการ สามารถรองรับอุปกรณ์ทั้ง iPhone และ iPad ทำให้คุณสร้างผลงานได้โดยไม่ต้องพกพาโน้ตบุ๊คไปกับตัว โดยมีคุณสมบัติที่มีความละเอียดของเสียงที่สูง ด้วยความถี่ 24bit/192kHz ที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพเสียง มีการเชื่อมต่อเพื่อจะใช้งานก็ง่าย ไม่ต้องใช้ Adaptor ให้ยุ่งยาก เพียงเชื่อมต่อผ่าน USB ก็สามารถใช้งานได้ทันที โดยคุณภาพเสียงที่ได้ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐาน
2.Focusrite : Scarlett Solo 3rd Gen
Focusrite : Scarlett Solo 3rd Gen เป็นอินเทอร์เฟสที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยการที่มาพร้อมความละเอียดสูงสุดที่ 24 บิต/192kHz โดยใช้ตัวแปลง AD/DA ที่ให้ผลลัพธ์สุดยอด ซึ่งคอมโบอินพุต XLR/TRS และขยายสัญญาณไมโครโฟน 2 ตัว ทำให้เสียงที่คุณบันทึกมีคุณภาพสูงและชัดเจน โดยอินเทอร์เฟสที่มี M-Remote ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทั้งหมดนั้นง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้อินเทอร์เฟสยังรองรับทั้งระบบ Windows และ Mac ให้คุณสามารถทำงานได้ตามความสะดวก
3.Midiplus Studio 2 Pro
Midiplus Studio 2 Pro เป็นเครื่องควบคุมเสียงแบบพกพา มาพร้อมกับโมดูลแปลงสัญญาณ AD/DA ที่ให้ความละเอียดสูงสุดที่ 24 บิต/ 192kHz มีขาเข้าแบบคอมโบ XLR/ TRS มากับปรีแอมป์ไมค์สองตัวที่มีคุณภาพสูงสุด เพิ่มเติมด้วยการออกแบบขาออกแบบ TRS balanced ขนาด 1/4″ (6.35 มม.) สองตัว (ซ้าย-ขวา) รวมถึงส่วนขยายเสียงหูฟังแบบสเตอริโอที่มีขาหมุนควบคุมระดับเสียงขนาด 1/4″ (6.35 มม.) สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สะดวกสบายผ่าน M-Remote ที่รองรับการทำงานกับระบบปฏิบัติการทั้ง Window และ Mac
4.Arturia รุ่น MiniFuse1
Arturia รุ่น MiniFuse1 เป็นอุปกรณ์อินเตอร์เฟสที่มาในการออกแบบสีขาวสวยและขนาดกระทัดรัด ที่สามารถเชื่อมต่อสองช่องเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งถูกออกแบบมาให้ทันสมัยและเหมาะสมกับความต้องการทางด้านเสียง ไม่ว่าคุณจะต้องการบันทึกเสียงร้อง,เสียงกีตาร์, พอดแคสต์ หรือแทร็กของคุณด้วยคุณภาพอันยอดเยี่ยมเทียบกับสตูดิโอใหญ่ ๆ ได้เลย นอกจากนี้ยังมีเซ็ตซอฟต์แวร์ที่ให้มาด้วย เช่น Ableton Live Lite, Analog Lag Intro, Arturia FX, Auto-Tune, GUITAR RIG 6 LE และอื่น ๆ ที่รวมไว้ใน MiniFuse1 ช่วยให้คุณสามารถทำเพลงในรูปแบบที่คุณต้องการได้
5.Steinberg UR12 B
Steinberg UR12 B อินเทอร์เฟสที่มาพร้อมดีไซน์อันเรียบหรู ต้องใช้การเชื่อมต่อ USB ผ่านช่องทาง 2-in 2-out เพื่อใช้งาน ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัด ออกแบบมาเพื่อคอยตอบสนองความต้องการของนักดนตรีที่เดินทางบ่อย ใช้งานได้ทุกที่ ภายในตัวเครื่องจัดเตรียมคอนเวอร์เตอร์ที่มีความละเอียดสูงถึง 24-บิต/192kHz และพรีแอมป์ชนิด D-PRE เพื่อให้สามารถสร้างเสียงที่มีความชัดเจนของดีเทลเสียง โดยรุ่นนี้สามารถทำงานร่วมกับ DAW หลัก ๆ ได้แทบทุกโปรแกรมไม่ว่าจะเป็น Pro Tools, Live, Logic และ Cubase และยังสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ iOS ทำให้อินเทอร์เฟซรุ่นนี้เป็นอีกทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการบันทึกเสียง
6.PreSonus AudioBox GO
PreSonus AudioBox GO เป็นอินเทอร์เฟสที่สร้างด้วยผู้ที่มีประสบการณ์มากว่า 25 ปีในการสร้างสรรค์สตูดิโอ ซึ่งจะให้เสียงที่ไม่มีความรบกวน เพราะมาพร้อมกับเกนระดับเสียง 50 dB และไฟที่เพียงพอสำหรับไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ XLR ของคุณ ไม่ว่าคุณจะเล่นคีย์บอร์ด หรือดรัมแมชชีน หรืออยากจะบันทึกเสียงของเครื่องดนตรีอื่น ๆ อินเทอร์เฟสสามารภตอบสนองความต้องการได้ ด้วย ‘อินพุตเครื่องดนตรี’ ที่คุณสามารถเชื่อมต่อกีตาร์ไฟฟ้าหรือเบสของคุณ และคุณสามารถบันทึกทั้งเสียงร้องและเสียงเครื่องดนตรีได้ในเวลาเดียวกัน ให้สามารถสร้างความสมบูรณ์ในเสียงของคุณ
7.Native Instruments Komplete Audio 1
Native Instruments Komplete Audio 1 เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการสร้างเพลงผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล มีความเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการหลัก ๆ อย่าง Windows, Mac และยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทำให้การบันทึกเสียงจากกีตาร์หรืออุปกรณ์ดนตรีอื่น ๆ ลงบน DAW ที่คุณใช้งานกลายเป็นเรื่องที่ไม่ยาก ด้วยคุณภาพเสียงที่สูงสุดที่ 24-bit / 192kHz ตัวเครื่องได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการบันทึกเสียงแบบโมโน เช่น เสียงร้องและเสียงกีตาร์ ในช่วงเวลาเดียวกัน มีช่องอินพุตที่แตกต่างกันสองช่อง เพื่อรองรับการบันทึกเสียงสองช่องทางในเวลาเดียวกัน
8.Behringer UMC204HD
Behringer UMC204HD เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างเสียงเพลงที่สมบูรณ์แบบ ด้วยคุณสมบัติหลักในการมีช่องเสียบ Input และ Output จำนวน 2 ช่อง ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้หลายวิธี บนพื้นฐานของโมเดล 202HD ที่ทรงคุณค่านี้ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้เอฟเฟกต์ที่อยู่นอกเครื่อง เช่น การใช้คอมเพรสเซอร์ สามารถทำการเชื่อมต่อกับเอฟเฟกต์ที่อยู่นอกเครื่องได้ตรง ๆ ถ้าไม่ต้องการเชื่อมต่อกับเครื่องนอก คุณยังสามารถดาวน์โหลดเอฟเฟกต์จากเว็บไซต์หลักได้มากถึง 150 รูปแบบ เสียงที่ผลิตออกมามีคุณภาพในระดับมืออาชีพ ทำให้เสียงชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านทาง USB อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
9.Universal Audio VOLT 1
เป็น Audio Interface ชื่อดังจาก Universal Audio รุ่น VOLT 1 ที่ให้คุณได้คุณภาพเสียงสูงสุดที่ 24-bit/192 kHz รวมถึงความสามารถในการจำลองเสียงสุดคลาสสิกจาก Universal Audio 610 Tube Preamp ผ่านโหมด VINTAGE MIC PREAMP MODE ที่เหนือกว่า รุ่นนี้มาพร้อมกับช่องเชื่อมต่อ 1-in/2-out ที่สามารถใช้งานร่วมกับหลากหลายอุปกรณ์อย่าง Mac, PC, iPad และ iPhone อีกทั้งยังมีสาย USB แบบ C พร้อมสายแปลงในกล่อง ทำให้คุณสามารถสร้างงานในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเพลง การสตรีมสด หรือการทำพอดแคสต์ โดยมีเสียงที่มีคุณภาพอย่างมืออาชีพ
10.Onyx Producer 2x2
ลำดับสุดท้ายเป็นอินเทอร์เฟสของทาง Onyx Producer 2×2 ถูกออกแบบมาเพื่อคุณภาพเสียงที่บันทึกลงในคอมพิวเตอร์ ช่วยให้คุณสามารถความละเอียดของเสียงได้ โดยพรีแอมป์ไมโครโฟน Onyx คู่ จุดเข้าสำหรับสัญญาณ XLR-1/4″ และอินเทอร์เฟส MIDI 5-pin DIN ทำให้ตัวอุปกรณ์นี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับนักร้อง โปรดิวเซอร์ทำเพลง MIDI และฮาร์ดแวร์ MIDI ในสตูดิโอส่วนตัวของพวกเขา ในทางปฏิบัติ คุณสามารถเชื่อมต่อยูนิตนี้กับจอภาพของคุณผ่านทางเส้นทางแจ็ค 1/4″ ที่ตั้งอยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
Audio Interface หรือ ซาวน์การ์ด เป็นเครื่องมือที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างเสียง (เช่น ไมโครโฟน, กีตาร์, เครื่องเปียโน) กับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึก แก้ไขเสียง (เช่น ซอฟต์แวร์บันทึกเสียง) ทำหน้าที่แปลงสัญญาณเสียงจากแบบแอนะล็อกเป็นแบบดิจิทัล และเพื่อที่คอมพิวเตอร์จะสามารถจัดการกับสัญญาณเสียงนั้นได้
ซึ่งซาวน์การ์ดจะมีการรับส่งสัญญาณเสียงผ่านหลาย Channels สามารถรับส่งสัญญาณเสียงจากแหล่งเสียงหลาย ๆ อุปกรณ์ พร้อม ๆ กันได้ และมีสามารถปรับแต่งระดับของสัญญาณเสียงหรือ Gain ที่สามารถปรับแต่งแยกได้ในแต่ละช่อง
ทั้งนี้อินเทอร์เฟซเสียง ก็มีหลากหลายรุ่น หลายรูปแบบที่มีความสามารถและฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน มีทั้งรุ่นที่มีขนาดเล็กที่พกพาได้ง่าย และรุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับการรับส่งสัญญาณเสียงจากหลาย ๆ อุปกรณ์พร้อมกันได้
Audio Interface เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ที่ทุกสตูดิโอต้องมี สำหรับงานทางด้านการบันทึกเสียง การทำเพลง หรือการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเสียงและเพลง คุณสมบัติสำคัญของอินเทอร์เฟซเสียง ได้แก่
- การแปลงสัญญาณเสียง (AD/DA Conversion)
- พอร์ทเชื่อมต่อ (Input/Output Ports)
- รองรับการทำงานแบบ Multichannel
- ปรับระดับความดังเสียง (Gain Control)
- ลดสัญญาณรบกวน (Phantom Power)
- สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
การเลือก Audio Interface ที่เหมาะสมสำหรับคุณ จำเป็นต้องพิจารณาความต้องการและวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานบันทึกเสียง, สร้างเพลง, หรืองานที่เกี่ยวข้องกับเสียงและเพลง จะมีอะไรที่ต้องพิจารณาบ้างไปดูกันเลย
- การเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
- จำนวนและประเภทของ Input/Output
- คุณภาพของเสียง
- ความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์
Related Suggest
22
Nov
รวม 9 เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ที่ควรติดตั้งภายในบ้าน ปี 2023!
มองหาเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เพื่อความปลอดภัยภายในบ้านอยู่หรือเปล่า บทความนี้รวบรวม 9 รุ่น น่าใช้งานในปี 2023 มาให้คุณแล้ว จะมียี่ห้อไหนบ้าง ติดตามกันได้เลย
22
Nov
7 ธนาคารรีไฟแนนซ์บ้าน 2566 ที่ไหนดี ดอกเบี้ยต่ำ ลดเวลาการผ่อน!
บัตรเครดิตที่เราแนะนำต่อไปนี้ล้วนแล้วแต่สมัครง่าย อนุมัติเร็ว ไม่ต้องใช้เอกสารเยอะ อ่านบทความนี้จบแล้ว คุณจะรู้ได้ทันทีว่าบัตรเครดิตธนาคารไหนดีที่เหมาะกับคุณมากที่สุด!
Categories
Technology
อุปกรณ์ไอที, PC, โน๊ตบุ๊ค
Keyboard
คีย์บอร์ด
Smart Phone
โทรศัพท์มือถือ
Smart Home
บ้านอัจฉริยะ
Gadget
เก็ตเจ็ต
Wellness
สุขภาพ และความงาม
Clinic
คลีนิก
Hospital
โรงพยาบาล
Health
สุขภาพร่างกาย
Supplementary
อาหารเสริม
Medical Equipment
อาหาร และยา
Beauty
เครื่องสำอาง
Food
อาหาร
Convenience Food
อาหารสะดวกซื้อ
Fashion
เสื้อผ้า
Accessories
สร้อย, แหวน, กระเป๋า, อื่นๆ
Book
หนังสือ
Games
เกมส์
Dairy Product
ผลิตภัณฑ์นม
Houseware
เครื่องใช้ภายในบ้าน
Luandry
ซักรีด
Kitchenware
เครื่องใช้ในครัว
Personalcare
ผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเอง
Program
โปรแกรม