Share:
ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นดูแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย รูขุมขนกว้าง เป็นสิวง่าย ขาดความยืดหยุ่น และหมองคล้ำ ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นตัวช่วยสำคัญในการเติมน้ำให้กับผิวให้อิ่มฟู ดูสุขภาพดี บทความนี้ Our Suggest เราจะมาแนะนำ 5 อันดับ มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี ให้ผิวเด้งชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ผิวไม่แห้งกร้าน ปี 2023! จะมีครีมมอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดีให้เลือกบ้าง ติดตามกันได้เลย
 |  |  |  |  | |
จุดเด่น | สามารถช่วยให้ผิวกักเก็บรักษาความชุ่มชื้นได้ยาวนาน | ซึมเข้าผิวไว ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ | คืนความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง | ช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรงอย่างมีประสิทธิภาพ | มีสารสกัดจากใบบัวบก ที่จะช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวให้กลับมามีความสดใส และเปล่งปลั่ง |
ขนาด | 50 มล. | 50 มล. | 453 กรัม | 150 มล. | 50 มล. |
บรรจุภัณฑ์ | กระปุก | หลอด | กระปุก | หลอด | กระปุก |
ราคาเริ่มต้น | 649 บาท | 190 บาท | 569 บาท | 695 บาท | 319 บาท |
ซื้อได้ที่/ติดต่อ |
มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว โดยทำหน้าที่ดึงน้ำจากชั้นอากาศเข้าสู่ผิว หรือช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในผิว ช่วยให้ผิวนุ่ม ลื่น เรียบเนียน และดูสุขภาพดี
ผิวของคนเราโดยธรรมชาติจะสูญเสียความชุ่มชื้นไปตามกาลเวลา ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ เช่น การอาบน้ำอุ่น การอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน หรือการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำจึงช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย และเกิดริ้วรอยก่อนวัย
มอยเจอร์ไรเซอร์มีให้เลือกหลายประเภท แต่ละประเภทมีส่วนผสมและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวจึงมีความสำคัญ โดยหลักๆ แล้ว สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามส่วนผสม ได้แก่
นอกจากนี้ มอยเจอร์ไรเซอร์ยังสามารถแบ่งออกได้เป็นประเภทย่อยๆ ตามส่วนผสมอื่นๆ เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid) ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ (Ceramide) ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี (Vitamin E) ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ เป็นต้น
วิธีใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ถูกต้อง คือ ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอหลังล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ ควรทาเป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ
เพื่อให้ใช้งานมอยเจอร์ไรเซอร์ได้ประโยชน์สูงสุด อย่าลืมทามอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำทุกวัน เช้าและเย็น เพื่อผิวสวยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน เพราะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีประโยชน์มากมายต่อผิวดังนี้
การเลือกซื้อมอยเจอร์ไรเซอร์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อและหลายสูตร แต่ละสูตรก็เหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด หากต้องการเลือกซื้อสามารถพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ได้ดังนี้
สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อมอยส์เจอไรเซอร์ก็คือสภาพผิวของเรา ว่าเป็นคนผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม โดยผิวแห้งจะต้องการมอยส์เจอไรเซอร์ที่เข้มข้นและให้ความชุ่มชื้นสูง ผิวมันควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ส่วนผิวผสมก็ควรเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวในแต่ละบริเวณ
สภาพอากาศก็เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อมอยเจอร์ไรเซอร์ เช่น หากอาศัยอยู่ในอากาศแห้ง ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เนื้อเข้มข้น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี สำหรับอากาศในประเทศไทยควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่อุดตันรูขุมขน
ส่วนผสมก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อมอยเจอร์ไรเซอร์ เพราะสารบางชนิดอาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ เช่น ผู้ที่แพ้น้ำหอม ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม
ราคาของมอยเจอร์ไรเซอร์ก็มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับแบรนด์ สูตร และส่วนผสม โดยมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีราคาแพงมักจะมีส่วนผสมที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูงกว่า แต่อย่างไรก็ตามมอยเจอร์ไรเซอร์ราคาประหยัดก็อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล
เราได้รู้จักกับมอยเจอร์ไรเซอร์แบบหอมปากหอมคอกันไปแล้ว เรียกได้ว่าแม้ผิวแห้งเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว และทามอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำทุกวัน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ผิวสวย ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีได้ง่ายๆ ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาแนะนำ 5 อันดับ มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี ให้ผิวเด้งชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ผิวไม่แห้งกร้าน ปี 2023! ไปดูกันเลย
Eucerin UltraSENSITIVE AQUAporin Cream ครีมบำรุงผิวหน้า ที่มี AQUAporin ช่วยเสริมน้ำในผิวได้อย่างดี โดยจะช่วยสร้างเกราะความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถช่วยให้ผิวกักเก็บรักษาความชุ่มชื้นได้ยาวนาน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและสุขภาพที่ดีให้กับผิวอีกด้วย แม้จะต้องพบกับสภาพแวดล้อมที่ทำให้ผิวแห้งเสียดสี ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาครีมที่สามารถปกป้องผิวจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
CeraVe Moisturising Cream เป็นครีมบำรุงที่เหมาะสำหรับผิวที่แห้ง ด้วยเนื้อครีมที่เข้มข้น สามารถซึมลงในผิวได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทำให้ผิวเหนียวเหนอะหนะ สูตรพิเศษนี้มีส่วนประกอบที่ผิวต้องการอย่างเซราไมด์ 3 ชนิด และใช้เทคโนโลยี MVE ที่เป็นความเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ CeraVe โดยจะช่วยในการกระจายส่วนผสมให้ลงบนผิวอย่างต่อเนื่องตลอดวัน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะมาก ๆ สำหรับผิวที่บอบบางและแพ้ง่าย
Cetaphil Moisturizing Cream Face and Body เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในวันแรกที่ใช้ ซึ่งจะสร้างเกราะคุ้มครองให้กับผิวให้แข็งแรงมากขึ้น ซึ่งเนื้อครีมมีความเข้มข้นไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นผิวที่แห้งบอบบางและแพ้ง่ายภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที ก็คืนความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง ทำให้ผิวดูนุ่มและเรียบเนียนขึ้น
Physiogel Daily Moisture Therapy Cream for Dry Sensitive Skin เป็นผลิตภัณฑ์มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิวที่บอบบาง แพ้ง่ายและมีปัญหาเรื่องสิว เพื่อปลอบประโลมและบำรุงผิวให้แข็งแรง ในผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารแต่งสี ซึ่งจะช่วยในการซ่อมแซมและปกป้องผิวให้อยู่ในสภาพที่ดี ลดอาการแห้งและริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ด้วยการฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงตามธรรมชาติของผิวได้อย่างดี ถือว่าเป็นยี่ห้อที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้น
ลำดับสุดท้ายแล้วหากพูดถึง ครีมมอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี จะขาดยี่ห้อนี้ไปไม่ได้เลยกับ Mizumi เป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับการดูแลผิวเพื่อให้ผิวดูมีสุขภาพดี ด้วยส่วนประกอบของ Madagascar Cica ที่มีความเข้มข้นถึง 2% เป็นสารสกัดจากใบบัวบกที่ผสมผสาน Polyphenol และ Pentacyclic Triterpenes ให้มีคุณค่ามากกว่าสารสกัดจากใบบัวบกปกติ ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวให้กลับมามีความสดใส เปล่งปลั่ง และกระจ่างใสเรียบเนียน ทำให้ผิวได้รับการปกป้องจากปัญหาการระคายเคือง
มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว โดยทำหน้าที่ดึงน้ำจากชั้นอากาศเข้าสู่ผิว หรือช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในผิว ช่วยให้ผิวนุ่ม ลื่น เรียบเนียน และดูสุขภาพดี
ผิวของคนเราโดยธรรมชาติจะสูญเสียความชุ่มชื้นไปตามกาลเวลา ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ เช่น การอาบน้ำอุ่น การอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน หรือการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำจึงช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย และเกิดริ้วรอยก่อนวัย
นอกจากนี้ มอยเจอร์ไรเซอร์ยังสามารถแบ่งออกได้เป็นประเภทย่อยๆ ตามส่วนผสมอื่นๆ เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid) ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ (Ceramide) ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี (Vitamin E) ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ เป็นต้น
วิธีใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ถูกต้อง คือ ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอหลังล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ ควรทาเป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ
กล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรงนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังกระทบกับชีวิตประจำวันอีกด้วย ใครเป็นแต่ไม่รู้ว่าจะแก้ที่ไหนดี เรามีคำตอบ
เงินเดือน 12,000 บาท ก็มีสิทธิ์สมัครบัตรกดเงินสดไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้! บทความนี้เราขอแนะนำ 5 บัตรกดเงินสดเงินเดือน 12000 สมัครง่าย เอกสารน้อย อนุมัติไว ปี 2024!
ยุงสัตว์ตัวเล็กกวนใจที่สร้างทั้งความรำคาญ และโรคร้าย มากำจัดด้วยเครื่องไล่ยุงไฟฟ้ากัน ยี่ห้อไหนดี ไล่ยุงได้จริงบ้าง มาดูกัน
อุปกรณ์ไอที, PC, โน๊ตบุ๊ค
คีย์บอร์ด
โทรศัพท์มือถือ
บ้านอัจฉริยะ
เก็ตเจ็ต
สุขภาพ และความงาม
คลีนิก
โรงพยาบาล
สุขภาพร่างกาย
อาหารเสริม
อาหาร และยา
เครื่องสำอาง
อาหาร
อาหารสะดวกซื้อ
เสื้อผ้า
สร้อย, แหวน, กระเป๋า, อื่นๆ
หนังสือ
เกมส์
ผลิตภัณฑ์นม
เครื่องใช้ภายในบ้าน
ซักรีด
เครื่องใช้ในครัว
ผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเอง
โปรแกรม
